กาแล็กซีที่อยู่ห่างไกล J1415+1320 หรี่ลงและสว่างขึ้นในช่วงหนึ่งปีในปี 2552 และ 2557 (พื้นที่แรเงา) ส่งผลให้ข้อมูลรูปตัวยูลดลงในข้อมูลที่ใช้ในการติดตามความสว่าง การจุ่มนั้นเกิดจากหยดพลาสม่าร้อนที่ปล่อยออกมาจากหลุมดำของดาราจักร ซึ่งถูกขยายโดยกลุ่มดาวฤกษ์ที่ทำหน้าที่เป็นเลนส์จักรวาลระหว่างโลกกับดาราจักร พล็อตนี้แสดงการสังเกตการณ์กาแลคซีจากหอดูดาว Owens Valley Radio ในแคลิฟอร์เนีย (สีดำ) หอดูดาว Metsähovi Radio ในฟินแลนด์ (สีน้ำเงิน) และ Submillimeter Array ในฮาวาย (สีแดง)
H. VEDANTHAM/CALTECH
นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ Eileen Meyer จากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ เทศมณฑลบัลติมอร์กล่าวว่า “นี่เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจอย่างยิ่งและไม่เหมือนใคร” “เท่าที่ฉันรู้ ไม่มีอะไรแบบนั้นที่เคยเห็นมาก่อน”
ทีมของ Readhead ยังต้องทำการสังเกตการณ์เพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าเลนส์นั้นเป็นของจริง แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็สามารถช่วยไขปริศนาอันโดดเด่นเกี่ยวกับหลุมดำได้ นั่นคือวิธีที่พวกมันยิงไอพ่นของอนุภาคที่มีประจุร้อนเข้าสู่อวกาศ กาแล็กซีแอคทีฟหลายแห่งแสดงเจ็ตอันเจิดจ้าเหล่านี้ แต่กำเนิดของพวกมันนั้นลึกลับ
Harish Vedantham จาก Owens Valley Radio Observatory และผู้เขียนร่วมของเอกสารฉบับใหม่กล่าวว่า “เราไม่รู้จริงๆ ว่าเครื่องบินเหล่านี้ถูกปล่อยอย่างไร “เราไม่มีคำตอบที่แน่ชัดเพราะเราไม่สามารถสร้างภาพในระดับ [ขนาด] ของที่ที่การปล่อยนี้เกิดขึ้นได้”
การสังเกตใหม่ของ J1415+1320 นั้นไม่ใช่ภาพดังกล่าว
แต่พวกเขาแนะนำวิธีในการผลิตสักวันหนึ่ง เลนส์ขยายหลุมดำได้มากกว่ากล้องโทรทรรศน์ปัจจุบันถึง 100 เท่า ดังนั้นการสังเกตการณ์เพิ่มเติมสามารถช่วยเปิดเผยธรรมชาติของหลุมดำได้มากขึ้น
“นี่มันเหมือนขั้นบันได” Vedantham กล่าว “นี่เป็นเทคนิคที่เป็นไปได้ในการเข้าไปและได้มุมมองที่มีความละเอียดสูงว่าหลุมดำปล่อยไอพ่นเหล่านี้ออกมาอย่างไร”
หากการสังเกตเพิ่มเติมตัดเลนส์ออกไป สิ่งต่าง ๆ อาจกลายเป็นเรื่องแปลกได้ “ถ้าไม่ใช่เลนส์โน้มถ่วง มันก็เป็นคุณสมบัติที่แท้จริงของตัวไอพ่น” Readhead กล่าว “จากนั้นก็จะมีนัยที่น่าสนใจสำหรับฟิสิกส์ของเครื่องบินเจ็ตจริง ฉันคิดว่ามันเป็นสถานการณ์ที่วิน-วิน”
credit : bipolarforbeginnersbook.com blessingsinbaskets.com centroshambala.net chroniclesofawriter.com ciudadlypton.com